สวัสดีครับทุกท่าน
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บทความในตอน “รวยและสุข” ในตอนที่5 กันนะครับ
ตอนนี้จะต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องของการปรับทัศนคติเรื่อง การเป็นเศรษฐี กันนะครับ
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บทความในตอน “รวยและสุข” ในตอนที่5 กันนะครับ
ตอนนี้จะต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องของการปรับทัศนคติเรื่อง การเป็นเศรษฐี กันนะครับ
ทำไมต้องปรับทัศนคติ????
นั่นเป็นเพราะว่า “ทัศนคติสำคัญต่อความสำเร็จ” นั่นเองครับ
อย่าช้าอยู่ใย เรามาเริ่มกันที่ทัศนคติที่3 กันเลยครับ
นั่นเป็นเพราะว่า “ทัศนคติสำคัญต่อความสำเร็จ” นั่นเองครับ
อย่าช้าอยู่ใย เรามาเริ่มกันที่ทัศนคติที่3 กันเลยครับ
ทัศนคติที่3 : วิธีหาเงินล้าน มีมากมายมหาศาล
ถูกต้องแล้วครับ ใครหลายๆคน หลงคิดว่า รูปแบบรายได้ของเศรษฐี เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม ต้องมีพ่อแม่รวยๆ ต้องเรียนจบสูงๆ(เช่น จบแพทย์ จบวิศวกร .. ฯลฯ..”
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “ทุกๆสาขาอาชีพ ก็สามารถสร้างตัวเองให้เป็นเศรษฐีได้อย่างไม่มีข้อจำกัด” เช่น
– อาชีพทำนา : ก็มุ่งเน้นทำนาแบบปลอดสารพิษ ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและขายได้ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด , ใช้เทคโนยีมาช่วยผ่อนแรง , เน้นการผลิตเพื่อการบริโภคอย่างแท้จริง..
– อาชีพทำไร่/ทำสวน : ก็มุ่งเน้นเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ พอประมาณ มีเหตุผล แลมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี… มีรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน
– อาชีพลูกจ้าง/พนักงาน : ก็มุ่งเน้นการบริหารเงินให้มีเงินเก็บเพื่อการประกอบอาชีพเสริมรายได้ แบ่งเงินออกเป็น 3กอง คือ ค่าใช้จ่าย เงินออม และเงินลงทุนทำธุรกิจ… ถ้าบริหารเงินก้อนนี้ดีๆ เดินบัญชีให้เป็นบวกอย่างสม่ำเสมอ เวลาอยากขอกู้ธนาคารก็จะอนุมัติง่ายมากๆ
เป็นไงครับ ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพไหน ก็สามารถสร้างตัวเองจนกลายเป็นเศรษฐีได้ทั้งหมด หัวใจสำคัญของการเป็นเศรษฐี คือ “การบริหารเงิน ให้มีรายได้เข้ามาอย่างหลากหลายช่องทาง” นั่นเองครับ
ที่สำคัญที่สุด รายได้ของคนเราสามารถสร้างรายได้ได้อย่างหลากหลาย
ผมจะยกตัวอย่างเช่น สมมุติท่านทำงานเป็นลูกจ้างรับเงินเดือน 15000 บาท หักค่าใข้จ่ายต่างๆแล้ว สมมุติเหลือเงินเก็บ = 7,500 บาท ท่านก็นำเอาเงินเก็บนี้มาแบ่งเป็น2กอง คือ เงินออม4,000 และ เงินลงทุนเพื่อสร้างรายได้เสริม3,500 เช่น
– ปลูกผักหลากหลายชนิดไว้ทาน ที่เหลือก็นำไปขาย เช่น มีผักอยู่ 5 ชนิด ขายได้ชนิดละ 40 บาท × 5 เราก็มีรายได้จากผัก วันละ 200 บาท
– เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เลี้ยงปลา แบบกักบริเวณหลังบ้าน/ข้างบ้านตรงที่มีพื้นที่ว่าง 3 เดือนก็เริ่มนำมาขายได้ สมมุติ ชนิดละ 80 บาท × 3 = 240 บาทต่อวัน
– หลังเลิกงาน ก็รับจ้างทำงานที่เราถนัดสัก 2-3ชั่วโมง เช่น รับพิมพ์งาน,สอนการบ้าน,ทำธุรกิจออนไลน์ ฯลฯ สมมุติเฉลี่ยรายได้วันละ 150 บาท
– หยุดเสาร์อาทิตย์ก็ทำธุรกิจแบบเครือข่าย MLM ด้วยวิธีที่ถูกต้อง สมมุติได้ค่าคอมฯเฉลี่ย วันละ 150 บาท
เมื่อนำรายได้เสริมมารวมกัน ก็จะทำให้มีรายได้ = 200+240+150+150 = วันละ 740×30 = 22,200 บาท รวมกับเงินออมที่เหลือจากเงินเดือน 4,000 ทำให้เรามีรายได้สำหรับเก็บออม เดือนละ 26,200 บาท ปีนึงก็ = 266,400 บาท 4ปีเราก็มีเงิน ประมาณ 1,000,000 บาท แล้ว
เป็นไงบ้างครับ สำหรับข้ออ้างที่ว่า
“ฉันเป็นเศรษฐีไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่มีเงินทุนเป็นแสนเป็นล้าน”
“ฉันเป็นเศรษฐีไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ”…..ฯลฯ ……..
ทั้งหมดนี้น่าจะนำมาอ้างไม่ได้แล้ว
ดังนั้น ทัศนคติใหม่ที่เราต้องปรับคือ “วิธีหาเงินล้าน มีมากมายมหาศาล” แค่ท่านเปิดใจเรียนรู้
ดังที่ผมเคยกล่าวไว้ เกี่ยวกับทัศนคติที่ถูกต้อง คือ
“ใครๆก็สามารถเป็นเศรษฐเงินล้านได้(แค่รู้วิธีการที่ถูกต้องในการหาเงินล้าน)
– ไม่มีเงินทุน ก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้
– ไม่มีเวลา ก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้
– ไม่มีการศึกษา ก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้
– อายุเด็กหรือแก่ ก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้
และที่สำคัญที่สุด คือ
– สุขภาพไม่ดี ก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้
วิธีการที่จะช่วยให้ปรับทัศนคติได้ คือ “การหาหลักฐานอ้างอิง” เช่น
– หาตัวอย่างคนที่เป็นเศรษฐี แม้ว่าเขาจะไม่มีเงินทุนตั้งแต่แรกเริ่ม
– หาตัวอย่างเศรษฐีที่แม้จะมีงานประจำทำ ก็สามารถแบ่งเวลาทำงาน แล้วพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นเศรษฐี
– หาตัวอย่างเศรษฐีที่สามารถมีเงินล้านแรก ตั้งยังเป็นนักเรียน/นักศึกษา
– หาตัวอย่างเศรษฐีที่อายุยังน้อย หรือบางคนก็เป็นเศรษฐีตอนแก่ก็มีให้เห็นอยู่มากมาย
– หาตัวอย่างเศรษฐีที่แม้ร่างกายเขาจะป่วย พิการ แต่เขาก็สามารถพัฒนาตัวเองจนเป็นเศรษฐีได้
เป็นไงครับ สำหรับบทความตอนที่5นี้ เริ่มจะช่วยให้ท่านเริ่มมองเห็นแสงสว่างในอุโมงค์รึยัง?
บทความต่อไป จะพาท่านไปพบกับทัศนคติที่4 ที่ท่านจำเป็นที่จะต้องปรับแก้โดยด่วน(ถ้าอยากรวยและมีความสุขไปพร้อมๆกัน)
อย่าลืมติดตามนะครับ
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ศรัทธาจะนำมาซึ่งความสำเร็จเสมอ….
อ.นเรศ สีละมัย
www.coursetorich.com
www.coursetorich.com