ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย(MLM)?

Why_MLM

สวัสดีครับทุกท่าน มีหลายคนขอร้องให้ผมเขียนบทความเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายMLMบ้าง วันนี้ผมเลยจะพาทุกท่านไปเรียนรู้กันว่า “ทำไมต้องทำธุรกิจเครือMLMถึงจะรวย?”

ธุรกิจเครือข่ายMLM คือ ธุรกิจที่หลายๆคน “รู้ไม่จริง99%” พอรู้ไม่จริงก็เลยเกิดเหตุการณ์

1)ปฏิเสธ ไม่ยอมเปิดใจฟังหรือเปิดใจเรียนรู้

2)ต่อต้าน ปิดกั้นตัวเองทุกรูปแบบ

3)ใช้วิธีการที่ผิดในการทำการตลาด

ซึ่งถ้ารู้ความจริงหรือรู้เคล็ดลับ รับรองได้ว่า คน 99% จะไม่ปฏิเสธธุรกิจเครือข่ายMLM อีกเลย เพราะมันเป็นธุรกิจที่ทำให้คนจนมีทุนน้อยๆสามารถหาเงินหมื่นเงินแสนได้เหมือนคนที่มีเงินทุนสูงๆ ดังนั้นเราไปเรียนรู้กันเลยว่า “ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่ายMLMถึงจะรวย?”

ข้อ 1. ธุรกิจเครือข่ายMLM ใช้เงินลงทุนต่ำมาก แต่มีโอกาสสร้างรายได้เป็นหมื่นเป็นแสนต่อเดือนได้

นี่คือการมองธุรกิจเครือข่ายในรูปแบบของการลงทุน และในประเด็นนี้หลายคนอาจมองว่า บางบริษัทต้องใช้เงินลงทุนสูงในการเข้าสู่ตำแหน่งสูงๆ เช่นหลัก 30,000 บาทขึ้นไปก็มี ผมก็จะชี้แจงกับท่านว่า นั่นคือวิธีการที่ผิดในการทำธุรกิจเครือข่ายMLM เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ธุรกิจเครือข่ายMLM ออกแบบมาให้ใช้เงินลงทุนที่ต่ำมากๆ เพราะมันใช้หลักการกระจายสินค้าผ่านการบอกต่อ ไม่ใช่การกักตุนสินค้า หมายความว่า “ได้เงินจากการบอกต่อ” ไม่ใช่ได้เงินจากกำไรส่วนต่าง

ถ้าพูดถึงรายได้เดือนละ 30,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนจากการทำธุรกิจ(ไม่ใช่เงินเดือน)ท่านคงมองเห็นภาพธุรกิจเหล่านี้ คือ

– ห้องเช่า/บ้านพัก/รีสอร์ท อย่างน้อย10ห้อง(เฉลี่ยค่าเช่าห้องละ3,000บาท) ที่ต้องใช้เงินลงทุนสร้างอาคารไม่ต่ำกว่าหลักแสนหลักล้าน

– เงินฝากธนาคาร(ดอกเบี้ย3%ต่อปี) ที่ต้องฝากสูงถึง 10,000,000 บาท

– เปิดร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11 ที่ต้องมีเงินทุนสูงถึง 3,000,000 บาท

เป็นไงบ้างครับ ถ้าพูดถึงธุรกิจ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเสมอ

แต่พอมาดูธุรกิจเครือข่ายMLMกันบ้าง เงินลงทุนมีเพียงแค่ “ค่าสมัคร+ค่าซื้อสินค้าใช้เอง” ถ้าใช้ดีก็บอกต่อให้คนมาใช้เองบ้าง เราก็ได้ค่าแนะนำ นอกนั้นยังไม่พอถ้าเขาซื้อซ้ำทุกเดือนเราก็ได้ค่าแนะนำทุกเดือนเช่นกัน

โดยหลักแล้ว ค่าสมัครสมาชิกน่าจะอยู่ที่หลัก 100 – 900 บาทเท่านั้นครับก็สามารถเริ่มหาเงินหมื่นเงินแสนได้แล้ว ดังภาพ

ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย1เงินทุนต่ำ

ข้อ 2. ธุรกิจเครือข่ายMLM สร้างรายได้จากการบอกต่อเป็นชั้นๆ นั่นหมายความว่ายิ่งมีหลายชั้น รายได้ยิ่งเยอะ สมมุติ 1 คน บอกต่อคนละ 5 คน องค์กรของทีมนี้จะเป็นดังภาพ

1-5

ถ้าและคนทำเหมือนกันจำนวนองค์กรก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณไปเรื่อยๆ ดังภาพ

การสร้างองค์กรของธุรกิจเครือข่ายMLM

จากภาพนำมาเป็นตัวอย่างแค่ 9 ชั้นเท่านั้นครับ จริงๆธุรกิจเครือข่ายMLMส่วนใหญ่จะไม่จำกัดจำนวนชั้นอยู่แล้ว ผมจะยกตัวอย่างแค่ชั้นที่5จำนวน3,125คนอาจจะซื้อสินค้าจริง 1,000คน คนละ 100 บาทเป็นเงินรวม 100,000 สมมุติเราได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย25% เราก็จะมีรายได้ 25,000 บาทจากการซื้อในครั้งนั้น ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า ธุรกิจเครือข่ายMLM มีรายได้จากการบอกต่อเป็นชั้นๆ ยิ่งบอกต่อมากๆลึกหลายๆชั้น รายได้ก็จะยิ่งมากตามไปด้วย นั่นเอง

ข้อ 3.ความเสี่ยงต่ำ นั่นเป็นเพราะลงทุนต่ำ ความเสี่ยงในการหมดเนื้อหมดตัวก็ต่ำไปด้วย(หรือแทบจะไม่มีเลย)

– ท่านมีเงินสร้างห้องพัก/บ้านเช่า หมดไปเป็นแสนเป็นล้าน ถ้าไม่มีใครมาพักหรือมาเช่าเลย เงินที่ท่านลงทุนไปก็จะสูญเปล่า

– ท่านมีเงินฝากธนาคาร 10,000,000 บาท กฏหมายระบุว่าธนาคารรับประกันคืนเงินสูงสุดแค่ 1,000,000 บาทถ้าธนาคารเจ๊ง ท่านก็เสี่ยงจะเสียเงิน 9,000,000 บาทฟรีๆ

– ท่านมีเงินเปิด 7-11 จำนวน 3,000,000 บาทก็จริง แต่ถ้าอยู่ในทำเลที่ไม่ดี หรืออยู่ในทำเลที่มีคู่แข่งเต็มไปหมด กว่าจะได้คืนทุนก็ปาเข้าไป 10 ปี นั่นก็เท่ากับว่าท่านกำลังมีความเสี่ยงอยู่เช่นกัน ไหนจะระวังเรื่องการปล้น เรื่องพนักงานขโมยเงิน/สินค้า ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น

ในขณะที่ธุรกิจเครือข่าย แค่ สมัครไม่ถึงพันบาท ทดลองใช้สินค้าแล้วเลือกเอาที่ประทับใจมาทำการตลาด โอกาสคืนทุนก็จะมีสูงมาก ที่เหลือก็จะเป็นกำไรล้วนๆ นั่นเอง

ไปดูฝั่งโรงงานกันบ้าง บริษัทเครือข่ายบางแห่ง สร้างโรงงานมูลค่าสูงถึง 7,000,000,000 บาทเพื่อผลิตสินค้าที่ดีและมีคุณภาพ สมาชิกนักธุรกิจทำเพียงแค่ “บอกต่อให้คนมาใช้สินค้านั้น แล้วรอรับตังค์” มันง่ายๆแค่นี้เองครับ

ข้อ 4. มีอิสรภาพทั้งด้านเวลาและสถานที่ นั่นเป็นเพราะธรรมชาติของธุรกิจเครือข่าย ไม่มีการตอกบัตรเข้าทำงานเป็นกะเป็นเวล ดังนั้น อยากทำงานหรืออยากบอกต่อตอนไหนก็ได้ หรือแม้แต่จะทำควบคู่ไปกับงานประจำที่ทำอยู่ก็ยังได้(ขอแค่อย่าให้เสียงานหลักก็พอ) และที่สำคัญคือ บอกต่อที่ไหนก็ได้ เช่น ที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ตลาด ที่ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ จึงทำให้มีอิสรภาพมากยิ่งขึ้น

ข้อ 5. รายได้ไม่จำกัด นั่นเป็นเพราะว่ามันขึ้นอยู่กับยอดซื้อรวมขององค์กร ยิ่งมากรายได้ก็ยิ่งมากตามไปด้วย อาจจะเริ่มจากรายได้หลักร้อย-หลักพัน แต่พอองค์กรโตขึ้นรายได้ก็จะทวีคูณเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ในขณะที่มนุษย์เงินเดือน ยังรับรายได้แบบขั้นบันได ไต่เต้าขึ้นไปเรื่อยๆ(กว่าจะเงินเดือนสูงถึงเดือนละ 30,000 บาท ก็ต้องมีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่า 10 ปี

ข้อ 6. ใครก็ทำได้ ไม่มีการจำกัดว่าต้องมีคุณสมบัติโน่นนี่นั่น(ขอแค่อายุ 18 ปีขึ้นไป)

-อายุก็ไม่เกี่ยว

-การศึกษาก็ไม่เกี่ยว

-สุขภาพก็ไม่เกี่ยว

ทุกคนสามารถทำธุรกิจเครือข่ายได้หมดเลย ขอแค่เปิดใจเรียนรู้และลงมือทำอย่างเต็มที่ก็พอ

ข้อ 7. เป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานได้ นั่นหมายความว่า หยุดทำงานแต่รายได้ไม่หยุด อยากเกษียณตัวเองตอนไหนก็ได้ถ้ามั่นใจแล้วว่า องค์กรจะยังคงอยู่ไม่สูญหายไปไหน และที่สำคัญที่สุด คือ “มันสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้” นั่นเอง

-เป็นข้าราชการ พอเกษียณ60ปี เขาก็เชิญให้ออก(แม้จะไม่อยากออก)เอาทายาทมาสืบทอดตำแหน่งก็ไม่ได้

-เป็นผู้เชี่ยวชาญ ใช่ว่าลูกหลานจะเชี่ยวชาญตามไปด้วย

-มีบ้านมีที่ดินมีรถมอบให้ลูกหลานเป็นมรดก ยังไม่มั่นคงเท่ากับการมอบมรดกในรู้แบบขององค์กรเครือข่ายMLM เพราะมั่นใจได้ว่า ทุกเดือนองค์กรต้องซื้อซ้ำสินค้าที่ดีและมีคุณภาพอย่างแน่นอน และนั่นจะนำมาซึ่งรายได้อย่างยั่งยืน นั่นเอง

……………………………………………………………………………………………

เป็นไงกันบ้างครับ ข้อดีทั้ง7ข้อนี้ น่าจะตอบโจทย์ได้ว่า “ทำไมทุกท่านจึงควรเลือกธุรกิจเครือข่ายMLMสักแห่งเพื่อเป็นรายได้แหล่งที่ 2,3,4….. ให้กับทุกท่านอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ศรัทธาจะนำมาซึ่งความสำเร็จเสมอ

อ.นเรศ สีละมัย

ปล. อย่าลืมกดไลค์กดแชร์เยอะๆนะครับ